สวัสดีค่ะ โพสต์นี้ขออาสาพาไปเดินเล่นริมน้ำย้อนรอยอดีตและศีกษาประว้ติศาสตร์ความเป็นมาของประเทศสิงคโปร์กันค่ะ ส่วนใครที่ไม่มีเวลาเดินเล่นชมเมือง แต่มองหาที่เที่ยวยอดฮิตของสิงคโปร์ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่เลยค่ะ

ประเทศสิงคโปร์ ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1819 โดยเซอร์สแตมฟอร์ด รัฟเฟิลส์ (Stamford Raffles) ท่านเซอร์สแตมฟอร์ดนี่คือนายพลที่ทางอังกฤษส่งมาประจำการในช่วงสมัยล่าอานานิคมนะคะ และโดยการอนุญาตจากรัฐสุลต่านยะฮอร์ อังกฤษได้อธิปไตยเหนือเกาะสิงคโปร์ ในปีค.ศ. 1824 และสิงคโปร์กลายเป็นหนึ่งในนิคมช่องแคบอังกฤษใน ค.ศ. 1826 จากนั้นถูกญี่ปุ่นยึดครองระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง สิงคโปร์ได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรใน ค.ศ. 1963 และเข้าร่วมกับอดีตดินแดนของอังกฤษอื่นเพื่อตั้งประเทศมาเลเซีย แต่ถูกขับออกจากการเป็นส่วนหนึ่งของมาเลย์เชียในอีกสองปีต่อมา นับแต่นั้น ประเทศสิงคโปร์พัฒนาอย่างรวดเร็ว จนได้รับการรับรองว่าเป็นหนึ่งในสี่เสือแห่งเอเชีย และล่าสุดก็พึ่งได้รับรางวัลเมืองที่มีค่าครองชีพสูงสุดในโลกไปครอง ซึ่งแอดว่ามันแพงจริงๆ นะ

เนื่องจากท่านเซอร์สแตมฟอร์ด ถือเป็นบุคคลสำคัญคนแรก ที่เข้ามาพลิกพื้นที่เกาะเล็กๆ ให้เป็นเมืองท่าที่มีความมั่งคั่งในทุกวันนี้ สิงคโปร์จึงสร้างรูปปั้นสีดำที่หล่อจากสัมฤทธิ์ เป็นที่ระลึกแก่ท่าน โดยตั้งรูปปั้นไว้หน้าอ่าวบริเวณที่เรือของอังกฤษเข้ามาเที่ยบท่าครั้งแรก ซึ่งปัจจุบันก็คือบริเวณด้านหน้าพิพิทภัณฑ์ Asian Civilization Museum ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงแรมฟูเลอตันนั่นเอง

แต่เนื่องจากการปรับผังเมืองจึงมีการย้ายรูปปั้นตัวจริงมาไว้ด้านหน้าโรงละคร Victoria Concert Hall & Theatre ซึ่งก็ไม่ไกลจากที่เดิมมากนัก และเพื่อไม่ให้เสียแลนมาร์ค ทางรัฐบาลสิงคโปร์มีการสร้างรูปปั้นจำลองใหม่อีกอันนึงเป็นปูนปั้นสีขาวมาตั้งไว้ที่หน้าอ่าวเช่นเดิมหลังจากปรับปรุงพื้นที่ริมอ่าวเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นในปัจจุบันเราจะสามารถเดินไปถ่ายรูปเล่นกับรูปปั้นได้ทั้งสองที่ค่ะ 

โรงละคร Victoria Concert Hall & Theatre
โรงละคนวิคตอเรีย สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1880 เพื่อเฉลิมฉลองการครองราชสมบัติครบ 50 ปี ของพระนางเจ้าวิคตอเรีย ของอังกฤษด้านหน้าจะเห็นอนุเสาวรีย์ของท่านเซอร์ โทมัส สแตมฟอร์ด ราฟเฟิลส์ สีดำที่หล่อจากสัมฤทธิ์ ตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่า บรรยากาศรอบบริเวณนี้ดูร่มรื่นด้วยมวลหมู่แมกไม้ ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก

Cavenagh Bridge
จากโรงแรม The Fullerton เดินข้ามสะพาน Cavenagh Bridge & Anderson Bridge ซึ่งสะพานแห่งนี้เป็นสะพานที่ถูกสร้างจากประเทศสก๊อตแลนด์และขนชิ้นส่วนมาประกอบที่ประเทศสิงคโปร์ แต่ก่อนสามารถนำรถวิ่งผ่านบนสะพานแห่งนี้ได้ แต่ปัจจุบันไม่อนุญาตให้นำรถขึ้นมาวิ่งบนนี้แล้ว และอนุญาตให้ผู้คนเดินข้ามไปมาได้ค่ะ

สะพาน Cavenagh Bridge ซึ่งเป็นสะพานเก่าแก่ที่สุดที่ใช้ข้ามแม่น้ำสิงคโปร์ ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2411 เพื่อลดปัญหาด้านการจราจร และ ชื่อของสะพานถูกตั้งตามชื่อของท่าน Sir Cavenagh ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการคนสุดท้ายภายใต้การควบคุมของบริติชอินเดีย ก่อนหน้านั้นสะพานนี้เกือบถูกตั้งชื่อว่า Edinburgh Bridge ซึ่งเป็นการตั้งชื่อตามเมืองที่ท่าน Sir Cavenagh ได้ไปเยี่ยมในช่วงที่จะมีการเปิดใช้สะพาน แต่ภายหลังได้มีการปรึกษากันว่าให้ตั้งชื่อตามชื่อท่าน Sir Cavenagh ดีกว่า เพื่อเป็นการรำลึกถึงท่าน ในยามที่หมดสัญญาการควบคุมของบริติชอินเดียไปแล้ว

ที่ด้านข้างสะพานทางซ้ายมือ หน้าโรงแรมฟูเลอตันจะเห็นปฏิมากรรมรูปปั้น “People Of the River” เป็นรูปหล่อทองแดงมีขนาดเท่ากับคนจริง

เป็นการเล่าเรื่องของวิถีชีวิตผู้คนริมแม่น้ำสิงคโปร์ในสมัยอดีต และ ปฏิมากรรมแห่งนี้ถือเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปด้วยเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าไม่แพ้เจ้าเมอร์ไลอ้อนเลยก็ว่าได้