วันนี้ดีใจมากเพราะมีน้องคนไทยที่ทำงานบริษัทในสิงคโปร์จะมาอาสาพาแอดไปซอกแซกเที่ยวชมสิงคโปร์ในย่านชุมชนชาวมาเลย์เก่าที่เรียกว่า “กัมปงเกอลัม Kampong Gelam” ที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยอาณานิคมของสิงคโปร์หรือยุคที่เริ่มก่อตั้งประเทศ โดยน้องวิจะมาพาไปแซกแซกทุกซอกทุกมุมและการันตีว่ามาที่เดียวแต่เก็บครบทั้งที่เที่ยว ที่ช้อป และที่กิน เลยหละค่ะ

เราสองคนเดินทางกันด้วยรถไฟฟ้าสายสีเขียวมุ่งหน้าไปยังสถานีบูกิส (Bugis) โดยระหว่างทางน้องวิเล่าประวัติความเป็นมาของย่าน “กัมปงเกอลัม Kampong Gelam”  ว่าเมื่อสมัยอาณานิคมของสิงคโปร์นั้นจะมีการจัดสรรพื้นที่ของสิงคโปร์ให้แก่ประชาชนโดยแบ่งเป็นย่านคนจีน คนอินเดีย คนมาเลย์ และคนอาหรับโดยให้อยู่แยกๆ กัน จนเมื่อเวลาผ่านไปพื้นที่ย่านบูกิส และกังปงเกอลัมก็ได้พัฒนากลายมาเป็นสถานที่ที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักเดินทางเพราะเป็นย่านที่ทันสมัยและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในวัฒนธรรมอาหรับผสมมาเลย์ น้องวิยังบอกอีกว่าพื่นที่เล็กๆ ของย่านนี้มีที่เที่ยว ที่ช้อป ที่กินเด็ดๆ ซ่อนตัวอยู่เยอะมาก

Kampong Gelam

ที่แรกที่จะพาไปสำหรับทริปวันนี้คือ The Masjid Sultan มัสยิดสุลต่านอันงดงามแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนพี่น้องมุสลิมในสิงคโปร์เป็นอย่างมาก ภายนอกของมัสยิดโดดเด่นด้วยโดมทองขนาดใหญ่สวยงามสามารถมองเห็นได้จากระยะใกล ตัวมัสยิดเดิมนั้นสร้างมาตั้งแต่ปี 1842 และได้รับการบูรณะให้มีสภาพที่ใหม่ขึ้นในปี 1932 ต่อมามัสยิดแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติในปี ค.ศ. 1975 เป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนพี่น้องชาวมุสลิมในสิงคโปร์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ถ้าใครมาเที่ยวในช่วงเดือนรอมฎอน เดือนที่ชาวมุสลิมถือศีลอด พื้นที่โดยรอบจะมีตลาดกลางคืนและแผงขายอาหารที่มีให้เลือกซื้อมากมาย ถือเป็นช่วงหนึ่งที่น่าเที่ยวมากๆ สำหรับย่านนี้

ที่ตั้ง: 3 Muscat Street, Singapore 198833
เวลาทำการ: จันทร์ถึงอาทิตย์: 9.30 12.00 น. และ 14.00 16.00 น.
ศุกร์: 14.30 – 16.00 น.

Malay Heritage Centre (ศูนย์มรดกทางวัฒนธรรมมาเลย์)

ที่ที่สองที่น้องวิมาเรามาในวันนี้เหมาะสำหรับคนที่สนใจข้อมูลเชิงลึกในประวัติศาสตร์ของย่านนี้เป็นอย่างมาก นั่นก็คือ Malay Heritage Centre (ศูนย์มรดกทางวัฒนธรรมมาเลย์) ศูนย์มรดกทางวัฒนธรรมมาเลย์แห่งนี้คืออดีตพระราชวังอิสตานา กัมโปงเกอลัม (Istana Kampong Gelam) เขตวังเก่านี้ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นหอศิลป์ที่จัดแสดงแบบถาวร  รวมทั้งมีกิจกรรมทางวัฒนธรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจคอยสลับสับเปลี่ยนมาจัดแสดงที่อยู่อยู่ตลอดปี ภายในหอศิลป์เราจะได้พบกับเรื่องราวการเดินเรือทะเลของชาวมาเลย์ในอดีต เรียนรู้เกี่ยวกับย่าน Kampong Gelam ว่าเป็นศูนย์กลางการพิมพ์ในภูมิภาค และยังได้ชื่นชมกับสิ่งประดิษฐ์อันงดงามอื่นๆ ที่เก็บรักษาไว้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเครื่องใช้ของราชวงศ์

ที่ตั้ง: 85 Sultan Gate, Singapore 198501
เวลาทำการ: อังคารถึงอาทิตย์ เวลา 10.00 18.00 น. *ปิดทำการวันจันทร์
ค่าบัตร: 8เหรียญ ดอลลาร์สิงคโปร์

Gelam Gallery (เกอลัมแกลเลอรี่)

 Gelam Gallery (เกอลัมแกลเลอรี่) จากตรอกเล็กๆ หลังร้านค้าที่เคยเป็นเพียงถนนสำหรับรถส่งสินค้าและจุดทิ้งขยะ วันนี้ได้ถูกดูและทำความสะอาดอย่างดี พร้อมด้วยการปรับโฉมผนังอาคารด้วยภาพวาดงานสตรีทอาร์ตสีสันสดใสตลอดแนวทางเดินมากกว่า 30ภาพ ใครที่ชอบในงานสตรีทอาร์ตและกำลังค้นหาแรงบันดาลใจ แอดแนะนำเลยว่าต้องมาเดินถ่ายรูปแนวฮิปๆ ที่นี่ รับรองว่าได้รูปสวยๆ ไปลงไอจีเพี่ยบแน่นอน ใครที่อยากดูภาพผลงานของศิลปินที่มาวาดภาพเอาไว้ที่ เกอลัมแกลเลอรี่ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้เลยค่ะ www.theadmin.sg/gelam-gallery

ที่ตั้ง: Subhan St, Singapore 198833
เวลาทำการ: 24 ชั่วโมง

Bussorah Street

จบจากที่เที่ยวจุดสำคัญ ไปแล้ว ทีนี้ขาช้อปเตรียมควักกระเป๋าเอาบัตรมาเตรียมรูดกันได้เลยค่ะ เพราะถนนสามสายที่น้องวิและแอดจะพาไปเดินนั้นของขายน่าซื้อเพี่ยบ เรามาเริ่มกันที่ถนนสายแรกกันเลย นั่นก็คือ Bussorah Street ถนนเส้นนี้เป็นเส้นที่เดินตรงไปยังมัสยิดสุลต่าน โดยสองข้างทางจะมีร้านขายของฝากและของที่ระลึกสไตล์สิงคโปร์เรียงรายให้ได้เลือกซื้อตลอดทางเดิน สินค้าไฮไลท์ของถนนสายนี้จะเป็นแนวเครื่องแก้ว เครื่องกระเบื้องสีสันสดใสสไตล์อาหรับ รวมถึงเสื้อผ้า กระเป๋าบาติกสไตล์มาเลย์ก็มีให้เลือกซื้อหลายร้านมาก

Arab Street

ถนนสายต่อมาที่อยากแนะนำคือ Arab Street โดยตลอดสองแนวฝั่งถนนจะเต็มไปด้วยร้านขายพรมลายสวยงามคุณภาพดีให้เลือกซื้อหลายร้านมาก ไม่ว่าจะซื้อพรมผืนเล็กผืนใหญ่ มีให้เลือกทั้งนั้น และนอกจากพรมแล้วก็ยังจะมีโคมไฟสวยงานแนวอาหรับ อันนี้ก็มีขายให้เลือกซื้อเลือกต่อราคาได้เพียบเลย โดยเฉพาะใครที่อยากแต่งบ้านสไตล์แขกอาหรับ มาเดินที่นี่รับรองได้ของแต่งบ้านสวยๆ ครบแน่นอน ส่วนใครที่ไม่เน้นแนวแต่งบ้าน แต่ชอบแต่งตัว ถนนเส้นนี้ก็ถูกใจแน่นอน เพราะมีร้านขายชุดราตรีแบบตัดสำเร็จสวยๆ เยอะมากพอๆ กับร้านขายพรมเลยหละ ถ้าชุดแบบตัดแล้วยังไม่ถูกใจ ที่นี่ก็ขายผ้าแบบผืนให้เอาไปตัดชุดกันเองได้เช่นกัน ขอกระซิบบอกเลยนะคะว่าลายผ้าสวยๆ เยอะมากจริงๆ ค่ะ

ตรอกฮาจิเลน (Haji Lane)

มากันอีกถนนสายนึงในย่านกัมปงเกอลัมค่ะ ถนนเส้นนี้เรียกว่าถ้ามาสิงคโปร์แล้วไม่มาเดินที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงสิงคโปร์ค่ะ ถนนสายนี้เรียกว่าตรอกฮาจิเลน (Haji Lane) เป็นตรอกเล็กๆ ยาวประมาณ 700เมตร แต่เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมอย่างมากทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนสิงคโปร์เองก็นิยมมาเที่ยวกันที่นี่เช่นเดียวกัน สิ่งที่ดึงดูดผู้คนให้มาเดินถนนสายนี้ ได้แก่ร้านขายของและเสื้อผ้าเก๋ๆ สไตล์ฮิปสเตอร์ถูกใจวัยรุ่น ที่มีให้เลือกซื้อตลอดสองข้างทาง นอกจากนั้นถนนสายนี้ยังมีคาเฟ่และบาร์สไตล์เก๋ๆ ให้ได้แวะเข้าไปจิบชากาแฟ หรือจะเป็นค็อคเทลชิคๆ เพื่อพักเอาแรงหลังจากที่เดินกันมาสักพักได้เป็นอย่างดี ก่อนออกจากตรอกฮาจิเลน แนะนำว่าอย่าลืมแวะไปถ่ายภาพกันที่กำแพงฝั่งถนน Beach Road กันด้วยนะคะ เพราะจะมีภาพวาดบนกำแพงขนาดใหญ่สวยงามมาก

Nasi Padang

มาถึงช่วงที่แอดชอบมากเป็นพิเศษนั่นก็คือช่วงตามล่าหาของอร่อยกันแล้วค่ะ น้องวิบอกว่าจริงๆ แล้วย่านกัมปงเกอลัมเนี่ยะมีของกินและร้านอาหารชื่อดังเยอะมากๆ แต่วันนี้จะขอแนะนำร้านที่กำลังมาแรงให้ได้ลองกัน 5ร้านตามนี้ค่ะ

ร้านแรกน้องวิแนะนำว่ามาถึงย่านที่เป็นชุมชนมาเลย์ เลยอยากให้ได้มาลองอะไรที่เป็นแบบโลคอล จะได้เรียนรู้และซึมซับกลิ่นไอของวัฒนธรรมแบบมาเลย์ที่ส่งผ่านออกมาในรูปของอาหารการกิน และสิ่งนั้นก็คือ Nasi Padang หรือถ้าเทียบกับบ้านเราก็คือร้านข้าวแกงนั้นเองค่ะ อาหารแนวนี้มีที่มาจากแถบอินโดนีเซีย เพราะช่วงอานานิคมมีชาวมาเลย์จากอินโดนีเซียอพยพมาอาศัยอยู่ที่สิงคโปร์จำนวนไม่น้อย ร้านอาหารแบบนี้มีให้หากินได้แทบจะทุกซอยในย่านกัมปงเกอลัม แต่ร้านที่น้องวิพามาวันนี้ชื่อว่า Sabar Menanti ร้านเล็กๆ ประมาณ ไม่เกิน 10โต๊ะ สะอาดสะอ้านแถมราคาไม่แพง ทั้งหมดในภาพสำหรับสองคนวันนี้จ่ายไป 24เหรียญสิงคโปร์ ขอกระซิบบอกว่าอาหารรสชาติอร่อยและทานง่ายเพราะคล้ายคลึงกับอาหารไทยมากๆ เห็นพริกท่วมจานขนาดนี้จะบอกว่าเผ็ดน้อยกว่าอาหารไทยอยู่มากค่ะ

ที่ตั้ง: 737 North Bridge Rd, Singapore 198715
เวลาทำการ: 06:00-16:30น. ปิดวันจันทร์

Arabica

มาต่อกันที่ร้านที่สอง คราวนี้เราขอเปลี่ยนแนวมาแบบอินเทรนด์กันด้วยการมาจิบกาแฟ ถ่ายรูปลงไอจีสวยๆ ที่ร้านกาแฟชื่อดังที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากประเทศญี่ปุ่นนู้นเลยค่ะ ร้านนี้ชื่อว่า Arabica เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนที่เป็นคอกาแฟ และเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นน่าจะพอรู้จักกันบ้าง เพราะได้ข่าวว่าดังขนาดเมืองไทยก็มีการนำเข้าไปเปิดสาขากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และที่สิงคโปร์ก็เช่นกันค่ะ ผู้คนต่างพากันมาเข้าคิวซื้อกาแฟกันที่นี่ตลอดทั้งวันจนทำให้ต้องขายสาขาออกไปอีกหลายที่ในสิงคโปร์ สำหรับวันนี้โชคดีที่น้องวิพาแอดไปเดินช่วงเช้าหน่อย ทำให้ไม่ต้องรอนาน

ที่ตั้ง: 56 Arab St, Singapore 199753
เวลาทำการ: 08:00-18:00น. ทุกวัน

Konditori

ร้านต่อมาเป็นร้านที่โด่งดังมากในเรื่องครัวซองท์ น้องวิบอกว่าเห็นเมืองไทยกำลังฮิตกินครัวซองท์เลยอยากพาแอดมาลองร้านนี้ ร้านชื่อว่า Konditori เป็นเบเกอรี่สไตล์ยุโรป ร้านมีเพียงหน้าร้านเล็กๆ ไม่มีที่นั่งทาน ลูกค้าจะต้องซื้อกลับไปทานที่บ้านได้เท่านั้น สินค้าที่เป็นไอเท่มหลักที่ทุกคนต่างพากันมาเข้าคิวแย่งกันซื้อก็คือ Red Velvet Croissant ราคาชิ้นละ 5.9เหรียญสิงคโปร์ หน้าตาครัวซองท์นี้สีสันสวยงามมาก หลังจากที่ได้ชิมก็ขอยืนยันอีกหนึ่งเสียงว่าอร่อย กรอบนอกนุ่มในสมกับที่เข้าคิวรอกับเขาจริงๆ ปล. ถ้าใครจะไปแนะนำให้รีบไปไวๆ ก็ดีนะคะ เพราะตอนแอดไปนี่บ่ายกว่าๆ ขนมหมดต้องรอเขาอบรอบใหม่ เขาจะให้จ่ายเงินแล้วค่อยกลับมารับขนมอีกทีประมาณ 30นาที

ที่ตั้ง: 33 Bussorah St, Singapore 199451
เวลาทำการ: 10:00-18:00 ทุกวัน

Rich and Good Cake Shop

มาต่อกันเลยค่ะกับร้านเค้กสวิสโรลที่เรียกว่าโด่งดังที่สุดในสิงคโปร์ ร้านนี้เปิดมากว่า20ปีโดยปัจจุบันมีเพียงสองสาขาคือที่ถนน Kandahar st. ในกัมปงเกอลัมแห่งนี้ และอีกสาขาคือที่ห้าง Jewel ในสนามบินชางงี ร้านนี้ขายขนมเค้กและคุ้กกี้โดยทั่วไป แต่สินค้าที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือเค้กสวิสโรลสอดใส้รสชาติต่างๆ ที่มีให้เลือกถึง 9รสชาติได้แก่ สรอวเบอรี่, มะม่วง, กาแฟ, ช็อกโกแลต, บลูเบอรี่, ชาเขียวถั่วแดง, สังขยาใบเตย, ส้ม และสุดท้ายคือใส้ทุเรียน รสที่แอดลองแล้วถูกใจมากๆ คือชาเขียว, สังขยา, ส้ม และทุเรียน ตัวขนมแนะนำให้ซื้อมาแล้วกินในวันนั้นเลย เพราะขนมจะนุ่มละมุนมากๆ รสชาติก็กลมกล่อมหวานกำลังดี ถ้ามาเที่ยวย่านนี้แนะนำว่าให้ลองไปซื้อมาลองชิมดู แต่แนะนำให้ไปไวนิดนะคะ เพราะคิวยาวตลอดเกือบทั้งวันและอีกอย่างนึงคืออย่าไปวันอาทิตย์นะคะเพราะร้านปิดวันอาทิตย์นะคะ

ที่ตั้ง: 24 Kandahar St, Singapore 198887
เวลาทำการ: 09:00-17:00น. จันทร์-เสาร์

Blu Jaz Cafe

มาส่งท้ายร้านดังย่านกัมปงเกอลัมกันที่ Blu Jaz Cafe ค่ะ ร้านนี้เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์ที่เป็นที่นิยมมากๆ อีกร้านนึงในย่านนี้ โดยตอนกลางวันจะเปิดเป็นร้านอาหารทั่วๆ ไป แต่พอพลบค่ำ ร้านจะเปลี่ยนเป็นแจสบาร์เปิดไฟสีสันสวยงามที่สะท้อนกับภาพวาดกราฟิตี้สีสันจี๊ดจ๊าดที่ผนังกำแพงของร้านยิ่งทำให้บรรยากาศฮิปขึ้นไปอีก และด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ร้านนี้เป็นที่นิยมของวัยรุ่นและคนทำงานในสิงคโปร์ ที่ต่างพากันมากินดื่มและสังสรรค์หลังเวลาเลิกงานกันที่ร้านนี้ในทุกค่ำคืน

ที่ตั้ง: 11 Bali Lane, S(189848)
เวลาทำการ: 09:00-23:00น.