รีวิวนี้เอาใจคนที่ชื่นชอบการทานอาหารหรูมื้อพิเศษแบบจัดเต็ม โดยจะพาไปรีวิวมื้อกลางวันที่ร้าน “JAAN” ที่เลือกรีวิวร้านนี้ ก็เพราะว่าเขาคือหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดของสิงคโปร์ โดยมีบรรยากาศอันสุดแสนโรแมนติกบวกวิวระดับวีไอพี และเราสามารถมองเห็นวิวของอ่าวมาริน่าเบย์ได้ทั้งหมดจากโต๊ะอาหารของที่นี่ อีกทั้งคุณภาพอาหารที่คัดสรรมาแบบพิเศษระดับรางวัลมิชลินสตาร์ ชื่อเสียงโด่งดังขนาดนี้เลยต้องขอรีวิวสักหน่อย
(Jaan = “จาน” เป็นคำที่มาจากภาษาสันสกฤต ออกเสียงและความหมายคือจานใส่อาหารของบ้านเรานี่แหละค่ะ) JAAN เป็น ร้านอาหารอังกฤษสไตล์โมเดิร์นที่นำเสนอเมนูอาหารชั้นเลิศ รูปแบบการแต่งจานสวยงามตระการตา อาหารทุกจานเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลผ่านกรรมวิธีการปรุงอาหารขั้นสูงที่ยังคงรักษารสชาติแบบดั้งเดิมของวัตถุดิบเอาไว้
ร้านอาหารแห่งนี้นำทีมโดยเชฟ Kirk Westaway โดยมีรางวัลการันตีมากมาย เช่น มิชลินสตาร์ ระดับ 1ดาว ในปี 2019 และติดอันดับ 50 ร้านอาหารที่โรแมนติกที่สุดในทวีปเอเชีย ปี 2019 และรางวัลชนะเลิศทางด้านอาหารสาขาอื่น ๆ อีกมากมาย
มื้ออาหารในครั้งนี้แอดทานมื้อเที่ยงแบบ 6-course ราคา 168++ SGD โดยประกอบไปด้วย
King Crab
British Roots
Eggs in an egg
Scottish Langoustine
Organic Rhug Estate Turkey
Ivory Caramel
นอกจากนั้นในเซ็ตยังมีเมนูระหว่างคอร์สอีกเพียบ สิ่งที่โดดเด่นและประทับใจมาก ๆ ก็คือความสวยงามของการออกแบบและการตกแต่งจานอาหารที่ยกมาเสิร์ฟทีไรเป็นต้องขอถ่ายรูปกันยกใหญ่กว่าจะได้ลงมือกิน ส่วนรสชาติอาหารก็ทำได้ดีสมมาตรฐานดาวมิชลิน และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ “วิว” ยิ่งใครที่จองใด้ที่นั่งริมหน้าต่างนี่กินไปฟินไปกับวิวของอ่าวมาริน่าเบย์ ขอบอกว่าคุ้มสุด
บรรยากาศของร้าน โดยตั้งอยู่บนชั้น 70 ของโรงแรม Swissôtel จึงสามารถมองเห็นวิวอ่าวมาริน่าเบย์ ได้อย่างสวยงาม
เรามาเริ่มมื้อกลางวันแบบคอร์ส 6เมนูกันเลยค่ะ จานแรกนี้จะเป็นของทานเล่น ประกอบไปด้วย Beetroot meringue, Smoked eel ตามด้วย Devonshire cheddar & buckwheat pancake และ Fish & Chips ปิดท้ายด้วย Duck sausage roll อาหารเซ็ตแรกนี่หน้าตาสวยและรสชาติก็อร่อยมาก อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ
จากนั้นทางร้านจะเสิร์ฟขนมปังมาคู่กับเนยและเกลือชนิดพิเศษที่นำเข้าจากประเทศอังกฤษ อันนี้ก็นุ่มหนึบเคี้ยวอร่อยเช่นกัน
จานต่อมานี่จานที่สามแล้วนะคะ แต่เรายังไม่เข้าเมนูหลักที่อยู่ในลิสต์ 6เมนูของคอร์สเราเลยค่ะ อิอิ เมนูนี้คือ Roast potato soup, Mini loaf, Leek butter เป็นซุปมันฝรั่งหอมรสชาตินุ่ม กินคู่กับขนมปังและเนย อุ่นท้องดีมากเมนูนี้
หลังจากกินซุปเสร็จ จานแรกของคอร์สเราก็มาแล้วค่ะ เมนูนี้คือ King Crab with Apple เป็นเมนูเรียกน้ำย่อย ตอนแรกนึกว่าจะได้ขาปูยักษ์มาสักชิ้น แต่ว่าของจริงมาในรูปแบบสลัดฉีกเป็นเส้นเล็ก ๆ ปรุงรสมากับแอปเปิ้ล หวานอมเปรี้ยว หน้าตาและการจัดจานสวยใช้ได้เลย
จานต่อมายังคงเป็นสลัดอยู่ค่ะ เมนูชื่อว่า British Roots โดยเมนูนี้เป็นการรวมพืชผักชนิดต่าง ๆ จากประเทศอังกฤษบ้านเกิดของเชฟ ราดด้วยซอสสลัดอมเปรี้ยวและหวานนิด ๆ
จานนี้ชื่อว่า Eggs in an egg มันคือไข่ดองอบรมควันรสชาติออกมัน ๆ กินคู่กับขนมปังโรยด้วยชีส กินแล้วหวานมันถูกปากมาก ๆ
จากนั้นก็เข้าจานหลักที่แอดโปรดปลื้มมาก ๆ นั่นก็คือ Scottish Langoustine จานนี้คือชนะเลิศสำหรับแอดเลยค่ะ กุ้งLangoustineกรุบกรอบหวานอร่อย กินคู่กับเส้นพาสต้าและซอส อร่อยจนอยากขอเบิ้ลอีกสักจานทีเดียว
ต่อมาจะเป็นจานหลักอีกจาน นั่นก็คือ Organic Rhug Estate Turkey อันนี้เนื้อไก่งวงแน่นแต่ไม่เหนียว กินคู่กับซอสแครนเบอรี่หวานอมเปรี้ยวหน่อย ๆ เข้ากันได้ดีมาก มาถึงจานนี้ดิฉันเริ่มอิ่มแล้วค่ะ แต่เรายังต้องไปกันต่อค่ะ ฮ่า ๆ เราไปต่อจานต่อไปกันเลยค่ะ
พอเรากินจานหลักจบไป ทางร้านก็จะมีชีสสารพัดชนิดมาให้เราเลือก จากนั้นจะเสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปังและแยมหลายแบบมาให้เราได้กินอย่างจุใจเลยค่ะ
จากนั้นก็จะเป็นการเสิร์ฟเมนูล้างลิ้นก่อนที่จะเข้าสู่เมนูของหวานในคอร์สของเรา เมนูนี้เป็นไอติมแบล็คเคอเร้น โฟมมะนาว และเนื้อส้มโอ กินแล้วเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดทำให้ลิ้นเราปรับสภาพเพื่อเตรียมพร้อมสู่โหมดของหวานในลำดับต่อไป
ของหวานมาแล้วค่ะ อันนี้เป็นช็อคโกแลตรวมมิตร หรือ Ivory Caramel อันนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบกินหวาน ๆ เพราะว่าซอสคาราเมลหวานเค็ม กินกับช็อคโกแลตที่อมขมหน่อย ๆ อร่อยมาก
อันนี้เป็นของหวานอีกหนึ่งอย่างในคอร์ส คือเราต้องเลือกแค่หนึ่งของหวาน ซึ่งแอดเลือกเป็นช็อคโกแลตไปแล้ว เลยขอทางร้านถ่ายรูปอีกเมนูมาให้ดูกันด้วย อันนี้ชื่อว่า Pear Tart, Madagascar vanilla cream เป็นทาร์ตลูกแพร์กับครีมวนิลา
จบของหวานปั๊บพนักงานจะมาถามว่าเราจะจบมื้ออาหารด้วยน้ำชา หรือกาแฟ ตอนแรกก็นึกว่าจะเสิร์ฟมาแต่น้ำชากาแฟ เพราะตอนนี้คืออิ่มมาก แต่ต้องตกใจเพราะเครื่องดื่มมากับชุดช็อคโกแลตและคุ้กกี้กินเล่นอีกหลายชิ้นมาก ขนาดว่าอิ่มมาก ๆ แล้วกินไปกินมา หมดค่ะ ฮ่า ๆ
กินอิ่มแล้วระหว่างรอจ่ายตังเราก็สามารถนั่งชมวิวรอให้อาหารย่อยได้ตามสะดวก ใครจองได้ที่นั่งริมหน้าต่างนี่ก็จะได้วิวฟิน ๆ แบบนี้เลยค่ะ
จบคอร์สเมนูไปเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้คืออิ่มมาก และสำหรับคอร์สนี้ใช้เวลากินและดื่มด่ำกันไปทั้งหมด 3ชั่วโมงเต็ม ๆ เลยค่ะ สำหรับใครอยากมาตามรอยและทานอาหารแบบนี้บ้าง สามารถจองได้โดยตรงที่นี่ แนะนำว่าควรจองล่วงหน้านิดนึงนะคะ ถ้าอยากได้โต๊ะริมหน้าต่าง เพราะร้านนี้ที่นั่งเต็มตลอดแทบทุกวันเลยค่ะ
ที่ตั้ง: 2 Stamford Road Swissôtel, Level 70 The Stamford, 178882
รถไฟฟ้า: สายสีเขียว ลงสถานี City Hall